Call us : 061 292 9098 / 099 789 8546

Follow us:

อั้น! ดีมานด์ต่างชาติซื้ออสังหาฯ พัทยาล้นทะลักวันที่ : 15 พฤษภาคม 2566

ออเนอร์ กรุ๊ป เผยว่า สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวและแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาในปี 2566 ว่า เริ่มฟืนตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาประมาณ 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด ซึ่งเป็นตัวเลขก่อนที่จีนจะเปิดประเทศ
เครือออเนอร์ กรุ๊ป หนึ่งในแลนด์ลอร์ดในพัทยา หวังรัฐบาลใหม่เปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน มั่นใจโครงการใหญ่ในอีอีซี เดินหน้าต่อ ชี้ท่องเที่ยวและอสังหาฯในเมืองพัทยากลับมา ฟืนตัว หลังเปิดประเทศ ยอดขาย คอนโดฯ “วันส์ พัทยา”ดีทะลุ 90% เหตุซัปพลายคอนโดฯแล้วเสร็จมีน้อย เหตุโครงการใหม่มีน้อย เผยปีนี้ลงทุน 5 โครงการใหม่ มูลค่าไม่กว่า 6,000 ลบ.ลุยสร้างพอร์ตบ้านหรูราคาแพง

      นางสาวธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือออเนอร์ กรุ๊ป จำกัด นักพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเมืองพัทยา กล่าวถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามา บริหารประเทศว่า ภาคธุรกิจต้องการ เห็นภาครัฐสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นที่รับรู้ในระดับโลกมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้เชิญชวนนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน แต่อยากเห็นนโยบายการเปิดกว้าง มากขึ้น และให้สานต่อแนวคิดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อาทิการปรนผ่อนเรื่องการจัดตั้งกาสิโน การเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน ได้สิทธิ์ซื้อที่ดิน 1 ไร่ แต่ให้อยู่ในภายใต้การคัดกรองที่ดี ทั้งนี้การเปิดกว้างให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านได้ 1 ไร่นั้น นักธุรกิจในประเทศไทยเห็นว่าเป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องการ ขายชาติแต่อย่างใด แม้แต่ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐฯ ก็มีคนทั่วโลกมาอาศัยอยู่ร่วมกันได้ เป็นต้น

      "หากรัฐบาลชุดใหม่สามารถทำให้ประเทศไทยเกิดการลงทุน ก็จะทำให้หลุดพ้นกับดักรายได้อย่างแท้จริง และคิดว่าการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีการเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สนามบิน ท่าเรือ รถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งไม่ว่า ใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล หรือเป็นนักการเมือง ก็จะไม่มีความลังเล มีแต่ขับเคลื่อนการลงทุนต่อเนื่อง รัฐบาลชุดที่แล้วใส่พานเตรียมไว้แล้ว มีหรือรัฐบาลใหม่จะไม่"

      สำหรับภาพรวมการท่องเที่ยวและแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาในปี 2566 ว่า เริ่มฟืนตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาประมาณ 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด ซึ่งเป็นตัวเลขก่อนที่จีนจะเปิดประเทศ คาดว่าในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนข้างหน้า ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเข้ามาในพัทยาเต็ม 100% ทั้งนี้ในช่วงเกิดโควิด แม้นักท่องเที่ยวจากจีนจะหายไป แต่ก็มีลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น รัสเซีย อินเดีย เวียดนาม เกาหลี ยุโรป และสหรัฐฯ เข้ามาทดแทน โดยเฉพาะเวียดนามที่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่เข้ามา

      ขณะที่ เรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองนั้น มีนักลงทุนในหลายประเทศเข้ามาซื้อ อาทิ รัสเซีย เกาหลี ญี่ปุ่นและยุโรป โดยนิยมเลือกซื้อห้องชุดขนาดกลางและใหญ่ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 35-200 ตารางเมตร ราคาที่เหมาะสมคือ 5-6 ล้านบาท

      "เราตัดสินใจที่จะเดินหน้าโครงการวันส์ พัทยา ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า  2,200 ล้านบาทอย่างเต็มที่ เพราะมองว่า เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายและเปิดประเทศ จะได้มีห้องชุดรองรับลูกค้าได้ทัน ซึ่งถือว่าเป็นการคาดการณ์ที่ถูก ส่งผลดีต่อยอดขายโครงการ วันส์ พัทยา ที่ปัจจุบันยอดขายพุ่งไปกว่าร้อยละ 90 โดยเป็นลูกค้าคนไทยกว่าร้อยละ 60 และที่เหลือเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ ทางโครงการได้เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยวางเป้าขายยูนิตที่เหลือประมาณร้อยละ 10 และโอนฯให้แล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปีนี้หรือต้นปี 2567"

      ในเรื่องของทิศทางการลงทุนโครงการใหม่ นางสาวธิดา กล่าวอีกว่า ในปี 66 บริษัทมีแผนเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท ได้แก่ 1. โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ พัทยา ซิตี้ บนเนื้อที่ดิน 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 29 ชั้น ขนาด 300 ห้อง ติดถนนพัทยาสาย 3 มูลค่าก่อสร้างกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Mixed-Use ปัจจุบันเริ่มพัฒนาโครงการแล้ว และความ คืบหน้าการพัฒนาว่าเป็นไปตามแผนงาน

      2. โครงการบ้านระดับ ลักชัวรี ราคา 8-10 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 32 ไร่ บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำมาบประชัน อ่างเก็บน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปา และมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท และ 3. โครงการบ้านเดี่ยว ระดับอัลตร้าลักชัวรี ราคา 30-40 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท บนทำเลนาจอมเทียน ซอย 2 (ซอยร้านอาหารปูเป็น) พื้นที่กว่า 8 ไร่ อยู่ห่างทะเล เพียง 900 เมตร ที่ปัจจุบันหาดจอมเทียนมีการถมทรายจึงทำให้ชายหาดมีความกว้างถึง 40 เมตร ซึ่งทั้ง 2 โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนา

      นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโรมแรมอีกอย่างละ 1 โครงการ โดยปัจจุบันมีที่ดินรองรับการพัฒนาเรียบร้อยแล้ว และบริษัทยังมีแผนซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปีต่อไปอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ และการเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ข้อมูลข่าวจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทย

Share:

Compare